Month: March 2022

การเคลือบพื้น Epoxy คือ การเคลือบพื้นด้วยสีอีพ็อกซี่ซึ่งเป็นสารยางสังเคราะห์ที่เกิดจากปฏิกิริยาระหว่าง Epoxy กับ Polyamine โดยนำมาผสมกันทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีทำให้เกิดการเชื่อมเป็นร่างแหและเป็นผืนเดียวกัน นิยมนำมาเคลือบพื้นที่ต้องการเน้นเรื่องความสะอาดและไร้รอยต่อ นอกจากนี้พื้นอีพ็อกซี่ ยังมีข้อดีด้านความทนทานต่อ กรด-ด่าง สารเคมี และน้ำมันได้ดี มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นมากสามารถป้องกันการสึกหรอของพื้นโรงงานและคลังสินค้าได้อย่างดี มีความมันเงาและสีสันที่หลากหลาย พร้อมให้บรรยากาศที่ดูสะอาดและปลอดภัย ด้วยเหตุนี้การเคลือบพื้นด้วย Epoxy จึงเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมในการทำเป็นพื้นโรงงานมาตรฐานสูง นอกจากนี้ Epoxy มีความโดดเด่นกว่าสีเคลือบพื้นธรรมดาด้านความทนทานต่อการใช้งานและการยึดเกาะกับพื้นคอนกรีตได้ดีกว่าอีกด้วย โดยทั่วไปแล้ว พื้นอีพ็อกซี่ จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดหลักๆ คือ Epoxy Coating และ Epoxy Self Leveling

1. Epoxy Coating
คือ พื้นที่ถูกเคลือบด้วยสีอีพ็อกซี่ความหนาต่ำ โดยปกติจะมีความหนาประมาณความหนาประมาณ 0.3 – 0.45 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับพื้นโรงงานและคลังสินค้าที่ใช้งานไม่หนักมากนัก เช่น ส่วนทางเดินและส่วนจัดเก็บสินค้า เป็นต้น

2. Epoxy Self Leveling
คือ พื้นที่ถูกเคลือบด้วยสีอีพ็อกซี่ความหนาสูง ความหนาตั้งแต่ 2 มิลลิเมตรขึ้นไป เหมาะสำหรับพื้นที่ต้องการความแข็งแรงสูงและใช้งานอย่างหนัก เช่น ทางเดินรถโฟล์ลิฟต์

ข้อดี พื้นอีพ็อกซี่ สำหรับโรงงานและคลังสินค้า
1.เพิ่มความแข็งแรงและปลอดภัยของพื้นโรงงานและคลังสินค้า
ในปัจจุบันการเคลือบพื้นอีพ็อกซี่ในโรงงานอุตสาหกรรมได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากพื้นของโรงงานมักจะเสี่ยงต่อการถูกกระแทกจากการตกหล่นหรือการเคลื่อนย้ายสิ่งต่าง ๆ และต้องรองรับน้ำหนักของเครื่องจักรขนาดใหญ่ อีกทั้งอาจจะมีสารเคมีและน้ำมันที่อาจตกลงสู่พื้นและทำลายพื้นผิวของโรงงานได้ การเคลือบพื้นอีพ๊อกซี่ (epoxy) โรงงานจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มความแข็งแรงและปลอดภัยให้กับพื้นโรงงาน เนื่องจากนี้เมื่อเคลือบแล้วจะทำให้พื้นคอนกรีตสามารถทนทานต่อแรงกระแทก รองรับน้ำหนักต่าง ๆ ได้ดี ไม่ทำให้พื้นลื่น ทั้งยังทนทานต่อความร้อนและไฟได้อีกด้วย ลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับพื้นโรงงานได้อย่างดีค่ะ ดังนั้นการเคลือบพื้นอีพ็อกซี่ จึงป็นสิ่งที่ทุกๆโรงงานควรทำ เพราะนอกจากจะทนทานต่อแรงกระแทกและน้ำหนักแล้ว ยังป้องกันคราบสกปรกต่าง ๆ ซึมเข้าสู่พื้นของโรงงานได้ ช่วยทำให้อากาศภายในโรงงานเย็นมากขึ้นเพราะสามารถส่งความเย็นจากพื้นมาสู่ภายในโรงงาน การเคลือบ Epoxy ที่พื้นจึงไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของความแข็งแรงปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเพิ่มประโยชน์เรื่องของสภาพอากาศภายในโรงงานอีกด้วย

2.ยืดอายุการใช้งานของพื้น
อีกหนึ่งคุณประโยชน์ของการเคลือบพื้นอีพ๊อกซี่ (epoxy) โรงงาน คือ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้นได้นานขึ้น โดยเฉพาะพื้นคอนกรีตที่มักจะแตกหักหรือร้าวเสียหายง่าย เมื่อเคลือบ Epoxy ไปแล้วจะทำให้เกิดความยืดหยุ่น ทนต่อแรงกระแทกและน้ำหนักจำนวนมากได้เป็นอย่างดี พื้นคอนกรีตที่อยู่ด้านล่างของ Epoxy มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น ช่วยลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของการซ่อมแซมพื้น ทำให้ประหยัดงบประมาณในการซ่อมบำรุงพื้นโรงงานและคลังสินค้าได้อย่างดีทีเดียวค่ะ การเคลือบพื้นอีพ๊อกซี่จึงถือเป็นการลงทุนที่ช่วยให้ใช้พื้นโรงงานได้ระยะยาวนานขึ้นและยังช่วยประหยัดเรื่องการจ้างแรงงานในการซ่อมแซมพื้นอีกด้วย

3.สร้างความสวยงามให้กับพื้น
การเคลือบพื้นอีพ๊อกซี่ (epoxy) โรงงาน ทำให้พื้นดูสะอาดและสวยงามสามารถดูแลรักษาและทำความสะอาดได้ง่าย โดยทั่วไปโรงงานอุตสาหกรรมและโกดังคลังสินค้ามักจะเลือกใช้พื้นซีเมนต์หรือพื้นกระเบื้อง เมื่อใช้งานไปได้สักพักพื้นซีเมนต์และพื้นกระเบื้องจะเกิดการแตกร้าว มีรอยต่อที่ทำให้คราบสกปรกต่าง ๆ ลงไปฝังลึกได้ หากเปลี่ยนมาใช้เป็นการเคลือบพื้นด้วย Epoxy จะทำให้การใช้งานพื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและดูสะอาดสวยงามมากขึ้น เนื่องจาก Epoxy จะเคลือบพื้นผิวไม่ให้มีรอยต่อและไม่มีร่องที่คราบสกปรกต่าง ๆ จะเข้าไปฝังตัวได้ ทั้งยังสามารถทำความสะอาดฝุ่นกับคราบสกปรกที่อยู่บนพื้นได้ง่ายดาย ทำให้พื้นผิวมีความสวยเงางามตลอดเวลา จึงเหมาะต่อการใช้ในโรงงานผลิตอาหาร, โรงงานผลิตอาหารเสริม, โรงงานผลิตเครื่องสำอาง, โรงงานผลิตเครื่องดื่ม และโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับอาหารเป็นอย่างมาก

ข้อดีของการเคลือบ พื้นอีพ็อกซี่ สำหรับโรงงานและคลังสินค้านั้นมีอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความแข็งแรงคงทน ปกป้องพื้นโรงงานและคลังสินค้าจากสารเคมีและคราบน้ำมันได้อย่างดี ไม่ทำให้เกิดฝุ่น อีกทั้งยังทำความสะอาดง่ายช่วยทำให้โรงงานอุตสาหกรรมดูสะอาดถูกสุขลักษณะ และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้นโรงงานและคลังสินค้า ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมดูแลรักษาพื้น ถือว่าเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า

อัลเทอร่า เป็นเทคโนโลยีการรักษาโดยใช้อัลตร้าซาวด์ที่มีพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง (Focused Ultrasound) และแม่นยำโดยปล่อยพลังงานที่ไปถึงชั้นคอลลาเจนใต้ผิวหนังจนถึงรอยต่อของกล้ามเนื้อชั้นบน ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่แพทย์ศัลยกรรมทำผ่าตัดดึงหน้า และปัจจุบันยังไม่มีเทคโลยียกกระชับอื่นใดสามารถทำได้ในระดับเดียวกัน จึงช่วยกระตุ้นให้มีการกระตุ้นคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้เกิดริ้วรอยได้ช้าลง และช่วยให้ผิวที่เสื่อมสภาพกับคืนสู่สภาพเดิม ลดปัญหาความหย่อนคล้อยของผิว มีความกระชับตึงขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

บริเวณที่สามารถทำ อัลเทอร่า ได้
นอกจากผลที่ได้ในการยกกระชับบริเวณใบหน้าและลำคอแล้ว การทำอัลเทอร่า ยกกระชับหน้ายังให้ผลดีต่อการยกคิ้ว การยกหนังตา แก้ปัญหาหนังตาตก ดึงกระชับขอบตาล่างที่หย่อนยาน ทำให้ดวงตาดูโตขึ้น ชั้นตามองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น และริ้วรอยรวมถึงความหย่อนคล้อยบริเวณขอบตาล่างลดลง และดูเป็นธรรมชาติ การยกกระชับใบหน้าโดยใช้เครื่องอัลเทอร่านั้น จะช่วยในการยกกระชับรูปหน้าขึ้น ทำให้รูปหน้าดูยกกระชับอย่างเห็นได้ชัด และช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น อัลเทอร่าถือเป็นนวัตกรรมเลเซอร์หนึ่งเดียวที่ช่วยยกกระชับหน้าและปรับรูปหน้าเรียวได้ดีที่สุด ประสิทธิภาพเทียบเท่าการผ่าตัด เนื่องจากใช้เทคโนโลยี Advance-Focused Ultrasound ที่สามารถปล่อยพลังงาน ลงลึกถึงชั้น SMAS ชั้นที่แพทย์ศัลยกรรมใช้ในการผ่าตัดดึงใบหน้า ให้ผลลัพธ์ยาวนานถึง 1-2 ปี ไม่มีแผล และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น โดยได้รับการรับรองมาตรฐานและความปลอดภัยจาก US FDA

ระยะเวลาการรับบริการ
การทำอัลเทอร่าเพื่อยกกระชับหน้า จะไม่มีแผล โดยก่อนทำ จะมีการทายาชาก่อนเป็นเวลา 45 นาที ขณะทำจะมีความรู้สึกจิ๊ดๆที่ชั้นใต้ผิวหนัง ซึ่งเกิดจากการปล่อยคลื่นลงไปที่ชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นใต้ผิวหนังที่ศัลยแพทย์ใช้เย็บเวลาผ่าตัดดึงหน้า ให้เกิดการกระชับและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ใช้เวลารักษาประมาณ 30 – 45 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ หลังทำจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงคือหน้ายกกระชับขึ้นทันทีประมาณ 30% ส่วนผลที่เหลือจะค่อยๆเห็นผล ประมาณ 3 เดือน และจะดีขึ้นเรื่อยๆ

การดูแลหลังจากการรับบริการยกกระชับหน้า
การทำอัลเทอร่า นั้น ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นใดๆ เพราะไม่มีแผลหลังทำ มีความปลอดภัยสูง หลังการรักษาด้วย อัลเทอร่า อาจเกิดอาการแดงที่ผิวหนังเล็กน้อย หรืออาการปวดเล็กน้อยใต้ผิวหนัง ซึ่งจะค่อยๆหายไปภายใน 1 สัปดาห์

การทำอัลเทอร่า เพื่อชะลอความหย่อนคล้อยของใบหน้า แนะนำให้เริ่มทำตั้งแต่ ผิวหน้าเริ่มมีความหย่อนคล้อยในระยะแรกถึงระยะปานกลางเพื่อให้เห็นผลชัดเจน และทำต่อเนื่องทุก 1-2 ปี เพื่อให้ผิวหน้าไม่เกิดความหย่อนคล้อยเพิ่มมากขึ้น