เครื่องมือ Keyword Planner เช็คค่าคลิกก่อนลงโฆษณา

Google Ads มีช่องทางการลงโฆษณาให้เลือกใช้หลายประเภทไม่ว่าจะเป็น google search , Google display network ,Youtube , Remarketing , Shoping ads และมีเอเจนซี่มากมายที่ให้บริการรับทำ google ads ราคาถูก ผ่านเอเจนซี่ที่ผ่านการรับรองจากกูเกิ้ล แต่ยังมีหลายๆธุรกิจกังวลว่าถ้าลงโฆษณาไปแล้วจะเสียค่าคลิกที่สูง หรือเคยลงโฆษณาแล้วเสียงบไปจำนวนมาก ทำให้มองข้ามการลงโฆษณา Google Ads ไป ซึ่งราคาค่าคลิกของแต่ละคีย์เวิร์ดจะแตกต่างกันไป และเราจะสามารถทราบราคาของแต่ละคีย์เวิร์ดได้เมื่อลงโฆษณา และเกิดการคลิกแล้ว ทางกูเกิ้ลจึงได้มีเครื่องมือที่ช่วยให้คุณรู้ราคาค่าคลิกจากสถิติ และยังแนะนำคีย์เวิร์ดเพิ่มเติมให้คุณได้ ด้วยการใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Keyword Planner ในบทความนี้เราจะมาแนะวิธีการใช้ และข้อดีของการใช้ Keyword Planner รวมไปถึงการใช้งานว่ามีฟังก์ชั่นอะไรบ้าง

Keyword Planner คุณสามารถเข้าไปใช้งานได้ภายในระบบลงโฆษณา แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย ทางระบบให้คุณเช็คคีย์เวิร์ดที่ต้องการจากสถิติเก่า ว่ามีปริมาณการค้นหาที่เท่าไร และราคาต่อคลิกประมาณเท่าไร ช่วยให้คุณคิดค่าใช้จ่ายการลงโฆษณาได้ ช่วยในการวิเคราะห์ว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะนำไปใช้ จึงเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมาก ไม่เพียงแต่นำไปใช้กับการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดใน Google Ads ยังสามารถนำไปใช้กับการทำ SEO ได้ด้วย ช่วยในการตัดสินใจ และคิดหาไอเดียใหม่ๆในการลงโฆษณา อยากให้ลองนำไปปรับใช้กันดู นอกจากนี้ยังทำอะไรได้อีกบ้าง ตามนี้เลยค่ะ

1.ปริมาณการค้นหารายเดือน คุณสามารถกำหนดจังหวัดหรือพื้นที่ และเลือกวันที่ต้องการได้ ระบบจะนำสถิติจากช่วงเวลาดังกล่าวมาแสดงผลให้คุณได้ทราบ

2.ปริมาณการแข่งขัน คีย์เวิร์ดที่เราต้องการนั้นมีการแข่งขัน สูง กลาง หรือต่ำ ส่งผลต่อการจัดอันดับโฆษณา จำนวนของคู่แข่งของคุณ

3.ราคาเสนอในอันดับที่บน หรือล่าง ใช้ค่าคลิกกี่บาท ราคาค่าคลิกเบื้องต้นของแต่ละคีย์เวิร์ด ที่จะปรากฎในหน้าแรกของกูเกิ้ลว่ามีราคาเสนอเท่าไร สำหรับด้านบนของหน้า หรือด้านล่าง

4.วิเคราะห์คีย์เวิร์ดใกล้เคียง นอกจากเราจะทราบราคาค่าคลิกของคีย์เวิร์ดแล้ว ยังสามารถนำคีย์เวิร์ดแนะนำไปใช้ได้ มีการระบุปริมาณการค้นหา และราคาค่าคลิกของคีย์เวิร์ดนั้นๆ

คุณน่าจะเห็นข้อดีของการใช้ Keyword Planner แล้ว ทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับค่าคลิก ทราบราคาค่าคลิกเบื้องต้นก่อนได้ แต่เราขอบอกก่อนว่าเป็นราคาจากสถิติเก่าเท่านั้น ส่วนนี้อาจจะต้องลงโฆษณาดูก่อน ว่าค่าคลิกจะอยู่ที่เท่าไร นอกจากนี้การปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ก็มีส่วนสำคัญให้คุณจ่ายน้อยกว่าคู่แข่งด้วย แนะนำให้ปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ไปพร้อมๆกันจะดีกว่า เพียงเท่านี้โฆษณาของคุณจะอยู่ในอันดับที่ดีที่สุด และจ่ายน้อยกว่าเดิม